วันอังคารที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2559

เงินเฟ้อยังดิ่ง ก.พ. ติดลบ 0.50% ต่อเนื่องเดือนที่ 14 ส่อยาวถึงกลางปี

พาณิชย์ เผย เงินเฟ้อยังดิ่งไม่หยุด เดือน ก.พ. 59 ติดลบ 0.50% ติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 14 หลังราคาน้ำมันยังลดต่อ พร้อมปรับลดเป้าเงินเฟ้อปีนี้เหลือแค่ 0.0-1.0% จากเดิม 1.0-2.0 เหตุราคาน้ำมันยังร่วงไม่เลิก
เมื่อวันที่ 1 มี.ค. 59 น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร รองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า เปิดเผยถึงดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (เงินเฟ้อ) เดือน ก.พ. 59 ว่า เท่ากับ 105.62 เมื่อเทียบกับเดือน ม.ค. 59 เพิ่มขึ้น 0.15% และเมื่อเทียบกับเดือน ก.พ. 58 ลดลง 0.50% ซึ่งเป็นการขยายตัวติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 14 นับจากเดือน ม.ค. 58 และเมื่อเทียบเฉลี่ย 2 เดือน (ม.ค.-ก.พ.) ของปี 59 กับช่วงเดียวกันของปีก่อน ลดลง 0.52%
ขณะที่ เงินเฟ้อพื้นฐานที่หักราคาอาหารสด และพลังงานออกจากการคำนวณ เดือน ก.พ. 59 เท่ากับ 105.65 เมื่อเทียบกับเดือน ม.ค. 59 สูงขึ้น 0.18% เทียบกับเดือนก.พ. 58 สูงขึ้น 0.68% และเฉลี่ย 2 เดือน สูงขึ้น 0.63%
"เงินเฟ้อเดือน ก.พ. ที่ยังติดลบ 0.50% เพราะน้ำมันเป็นสาเหตุหลัก ทำให้กลุ่มการขนส่งและค่าโดยสาร ทั้งรถ บขส. และรถร่วมเอกชนลดลง และยังได้ผลดีจากค่ากระแสไฟฟ้า ค่าก๊าซหุงต้มที่ลดลง แม้ว่าเดือนนี้จะมีแรงกดดันจากการขึ้นราคาของสินค้ากลุ่มอาหารสด ทั้งผัก ผลไม้ และเนื้อสัตว์ ในช่วงเทศกาลตรุษจีน รวมถึงการขึ้นราคาของบุหรี่"
อย่างไรก็ตาม การที่เงินเฟ้อปรับขึ้น 0.15% เมื่อเทียบเดือน ม.ค. 59 เพราะรัฐบาลได้ประกาศปรับขึ้นอัตราค่าแสตมป์ยาสูบตามมูลค่า ตั้งแต่วันที่ 10 ก.พ. 59 ส่งผลให้ราคาบุหรี่ในประเทศปรับเพิ่มขึ้นซองละ 5-10 บาท หรือปรับขึ้น 18.94% และส่งผลให้ดัชนีหมวดยาสูบและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ปรับขึ้น 8.79% ขณะที่ราคาอาหารสด ทั้งผักสด ผลไม้ เครื่องประกอบอาหาร อาหารบริโภคทั้งในบ้าน และนอกบ้าน ปรับขึ้นหมด
น.ส.พิมพ์ชนก กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ ได้ประมาณการอัตราเงินเฟ้อของไทยในปี 59 ใหม่ เป็นเหลือขยายตัวเพียง 0.0-1.0% จากเดิมคาดขยายตัว 1.0-2.0% เพราะหลายหน่วยงานด้านเศรษฐกิจ ได้ปรับลดประมาณการอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยปีนี้เหลือเพียง 2.8-3.8% จากเดิม 3.0-4.0% ราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยทั้งปี อยู่ที่ 30-40 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล จากเดิม 48-54 เหรียญฯ/บาร์เรล แต่อัตราแลกเปลี่ยนยังคงเดิมที่ 33-38 บาท/เหรียญฯ
"จากนี้ไป คาดว่าเงินเฟ้อจะยังขยายตัวติดลบ แต่จะติดลบในอัตราที่ลดลงเรื่อยๆ ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และผลจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล โดยเงินเฟ้อน่าจะติดลบไปจนถึงช่วงกลางปี จากนั้นจะค่อยเป็นบวก แต่อาจจะไม่มากนัก แต่ยังต้องจับตาภัยแล้ง ถ้ารุนแรง และผลิตสินค้าเกษตรเสียหายจำนวนมาก จนราคาสูงขึ้น ก็อาจทำให้เงินเฟ้อเพิ่มขึ้นได้อีก”.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น