นายกสมาคมค้าทองภาคใต้ เผย ธุรกิจค้าทองมีแนวโน้มสดใส ชี้
ออมทองแท่งความเสี่ยงน้อยสุด ผลตอบแทนคุ้มกำไร
ตลาดเอเชียมีความต้องการซื้อสูง ...
วันที่ 28 มี.ค. 59 นายศรันย์ ใจสะอาด นายกสมาคมการค้าทองคำภาคใต้ กล่าวระหว่างการจัดสัมมนา "กลยุทธ์การซื้อขายทองคำทางออนไลน์" ว่า การค้าธุรกิจทองคำในช่วงภาวะปัจจุบัน เป็นธุรกิจที่น่าจับตามองเป็นอย่างมาก จากการสำรวจระดับการออมทรัพย์ทั้งหมด จะพบว่า การออมทองคำแท่งมีอัตราการเสี่ยงน้อยที่สุด แต่ผลตอบแทนคุ้มกำไร ใช้ระยะเวลาเพียงไม่นาน ปี 2559 เป็นปีทอง เพราะเศรษฐกิจบางตัวที่มีเงื่อนไขดันให้ทองคำมีราคาสูงขึ้น มีหลายประการด้วยกัน ประกอบกับเศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่งเป็นประเทศมหาอำนาจ ยังไม่มีเสถียรภาพดีเท่าที่ควร ไม่มีความแน่นอน คนก็หันมาลงทุนในสินทรัพย์ที่มีมูลค่าความเสี่ยงน้อยก็คือ ทองคำ ซึ่งมีมากขึ้นๆ ตามลำดับ ส่งผลให้มูลค่าทองคำสูงขึ้นตามลำดับ
"จากราคาหน้าเหมือง 18,200 กว่าบาท ปัจจุบันขึ้นราคากว่า 20,000 บาท แนวโน้มที่ทางสมาคมค้าทองคำแห่งประเทศไทยประกาศไว้ปีนี้ ทองคำน่าจะมีราคาไม่สูงกว่า 22,000 บาท ต่อน้ำหนักทองคำ 1 บาท ดังนั้น อัตราการเติบโตจะมากกว่าค่าตอบแทนถึง 20% หากเปรียบเทียบกับอัตราดอกเบี้ยในสถาบันการเงินของภาครัฐ"
นายศรันย์ กล่าวด้วยว่า การทำธุรกิจทองคำ ท่ามกลางสภาวะการเมืองในปัจจุบัน ได้รับผลกระทบค่อนข้างน้อย เพราะปัจจัยสำคัญที่มีผลกระทบกับราคาทองคำนั้น จะมองค่าเงินดอลลาร์ของสหรัฐฯ เป็นหลัก ผลการประกอบการ การจ้างงาน การขายบ้าน จีดีพีของสหรัฐฯ ซึ่งประกาศโดยเฟด จะเป็นตัวยืนที่มีผลกระทบมากกว่า ทางยุโรปยังอ้างอิงสหรัฐฯ เป็นหลักเช่นกัน
ดังนั้น การซื้อขายทองคำจึงมีช่วงเวลาที่แตกต่างกัน ตลาดเอเชียมีความต้องการสูง โดยเฉพาะจีน เนื่องจากเป็นประเทศมหาอำนาจ มีประชากรมาก รองลงมาคือ อินเดีย และประเทศอื่นๆ ที่นิยมเก็บสะสมทองคำ เนื่องจากมีมูลค่าเป็นเงินสำรองเก็บไว้คงคลังของแต่ละประเทศ แต่ละประเทศจึงซื้อเพิ่มมากขึ้น จึงทำให้ทองคำมีมูลค่าสูงขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้น แนวโน้มการลงทุนด้านทองคำจึงเป็นธุรกิจที่สดใสเรื่อยๆ
วันที่ 28 มี.ค. 59 นายศรันย์ ใจสะอาด นายกสมาคมการค้าทองคำภาคใต้ กล่าวระหว่างการจัดสัมมนา "กลยุทธ์การซื้อขายทองคำทางออนไลน์" ว่า การค้าธุรกิจทองคำในช่วงภาวะปัจจุบัน เป็นธุรกิจที่น่าจับตามองเป็นอย่างมาก จากการสำรวจระดับการออมทรัพย์ทั้งหมด จะพบว่า การออมทองคำแท่งมีอัตราการเสี่ยงน้อยที่สุด แต่ผลตอบแทนคุ้มกำไร ใช้ระยะเวลาเพียงไม่นาน ปี 2559 เป็นปีทอง เพราะเศรษฐกิจบางตัวที่มีเงื่อนไขดันให้ทองคำมีราคาสูงขึ้น มีหลายประการด้วยกัน ประกอบกับเศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่งเป็นประเทศมหาอำนาจ ยังไม่มีเสถียรภาพดีเท่าที่ควร ไม่มีความแน่นอน คนก็หันมาลงทุนในสินทรัพย์ที่มีมูลค่าความเสี่ยงน้อยก็คือ ทองคำ ซึ่งมีมากขึ้นๆ ตามลำดับ ส่งผลให้มูลค่าทองคำสูงขึ้นตามลำดับ
"จากราคาหน้าเหมือง 18,200 กว่าบาท ปัจจุบันขึ้นราคากว่า 20,000 บาท แนวโน้มที่ทางสมาคมค้าทองคำแห่งประเทศไทยประกาศไว้ปีนี้ ทองคำน่าจะมีราคาไม่สูงกว่า 22,000 บาท ต่อน้ำหนักทองคำ 1 บาท ดังนั้น อัตราการเติบโตจะมากกว่าค่าตอบแทนถึง 20% หากเปรียบเทียบกับอัตราดอกเบี้ยในสถาบันการเงินของภาครัฐ"
นายศรันย์ กล่าวด้วยว่า การทำธุรกิจทองคำ ท่ามกลางสภาวะการเมืองในปัจจุบัน ได้รับผลกระทบค่อนข้างน้อย เพราะปัจจัยสำคัญที่มีผลกระทบกับราคาทองคำนั้น จะมองค่าเงินดอลลาร์ของสหรัฐฯ เป็นหลัก ผลการประกอบการ การจ้างงาน การขายบ้าน จีดีพีของสหรัฐฯ ซึ่งประกาศโดยเฟด จะเป็นตัวยืนที่มีผลกระทบมากกว่า ทางยุโรปยังอ้างอิงสหรัฐฯ เป็นหลักเช่นกัน
ดังนั้น การซื้อขายทองคำจึงมีช่วงเวลาที่แตกต่างกัน ตลาดเอเชียมีความต้องการสูง โดยเฉพาะจีน เนื่องจากเป็นประเทศมหาอำนาจ มีประชากรมาก รองลงมาคือ อินเดีย และประเทศอื่นๆ ที่นิยมเก็บสะสมทองคำ เนื่องจากมีมูลค่าเป็นเงินสำรองเก็บไว้คงคลังของแต่ละประเทศ แต่ละประเทศจึงซื้อเพิ่มมากขึ้น จึงทำให้ทองคำมีมูลค่าสูงขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้น แนวโน้มการลงทุนด้านทองคำจึงเป็นธุรกิจที่สดใสเรื่อยๆ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น