วันพฤหัสบดีที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2559

หุ้นไทยครึ่งเช้าปิดบวก 1.05 จุด แนะ ระวังแรงขายทำกำไรช่วงสั้น


 ค่าความน่าจะเป็นในการ ปรับขึ้นดอกเบี้ยของ FOMC ในการประชุมเดือนหน้า อยู่ที่ 20.0% หนุนนักลงทุนกลับมา ดันหุ้นเช้าปิดบวก 1.05 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,548.06
จุด แนะ ระวังแรงขายทำกำไรช่วงสั้น เน้นลงทุนหุ้นต่างประเทศ ...

การเคลื่อนไหวของ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยช่วงเช้าวันที่ 19 ส.ค.59 หุ้นไทยปิดบวก 1.05 จุด คิดเป็น +0.07% ดัชนีอยู่ที่ 1,548.06 จุด มูลค่าการซื้อขาย 24,944.62 ล้านบาท

ำหรับหลักทรัพย์ที่มี มูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 1. บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) 2. บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) 3. บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) 4. บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และ 5. บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน)

ด้าน นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ กลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (KTBST) มองทิศทางตลาดหุ้นในวันนี้ (19 ส.ค.) ว่า จากการคาดการณ์ของนักลงทุนในตลาดต่างประเทศ ต่อแนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ในการประชุม FOMC 20-21 ก.ย.ว่ามีโอกาสน้อยลงตาม ลำดับ หลังในการประชุมครั้งที่ผ่านมา กรรมการ FOMC ยังไม่มีความเห็นไปในทางเดียวกันที่จะให้มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะนี้ ค่าความน่าจะเป็นในการปรับขึ้นดอกเบี้ยของ FOMC ในการประชุมเดือนหน้า อยู่ที่ 20.0% แทบไม่เปลี่ยนแปลง ส่งผลให้นักลงทุนกลับเข้ามาลงทุนกันตามปกติ ซึ่งน่าจะเป็นส่วนหนึ่งให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างแรง

ส่วนราคาน้ำมันดิบในคืน ที่ผ่านมา (18 ส.ค.) ก็ปรับตัวขึ้นค่อนข้างแรง โดยเฉพาะราคาน้ำมันดิบจากแหล่ง Brent ขึ้นปิดเหนือ 50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ 31 ก.ค.58 เป็นต้นมา ทิศทางราคาน้ำมันที่แข็งแกร่งเป็นผลจาก 2 ปัจจัยคือ ดอลลาร์ที่อ่อนค่า และการคาดหวังการประชุมของผู้ผลิตน้ำมันที่คาดว่าจะมีขึ้นต้นเดือน ต.ค.ราคาน้ำมันดิบที่สูงขึ้น จะเป็นบวกต่อตลาดหุ้น ด้านตลาดหุ้นญี่ปุ่น หลังค่าเงินเยน กลับมาซื้อขายเหนือ 100 เยน/ดอลลาร์อีกครั้งหนึ่ง ทำให้ดัชนีตลาดหุ้นญี่ปุ่นสูงขึ้นด้วย ส่งผลบวกทางจิตวิทยามาถึงตลาดหุ้นอื่นๆ ในวันนี้

สำหรับปัจจัยในประเทศวัน นี้ แทบจะไม่มีอะไรใหม่เข้ามาในตลาด บล.KTSBT คาดว่า จะได้อานิสงส์จากการสูงขึ้นของทั้งราคาน้ำมันและดัชนีตลาดหุ้นต่างประเทศที่สูงขึ้น เป็นผลพวงจากเรื่องดอกเบี้ยสหรัฐฯ รวมทั้งแรงซื้อจากสถาบันในประเทศ จะดันให้ดัชนีฯ มีโอกาสที่จะปรับตัวสูงขึ้นจากวันก่อน มองกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,538-1,555 จุด

ทั้งนี้ กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้ แนะนำว่า การพลิกกลับเข้ามาซื้อหุ้นของกองทุนในประเทศ ทำให้ทิศทางตลาดวานนี้ที่เราคาดว่าจะอ่อนตัวลงกลับไปปรับตัวขึ้น ซึ่งาจเรียกได้ว่า การพักตัวของตลาดนั้นสิ้นสุดลงก็เป็นได้ ดังนั้นกลยุทธ์ในวันนี้ แม้ตลาดจะดูเป็นบวกแต่คงต้องระวังแรงขายทำกำไรช่วงสั้นที่อาจเข้ามาได้ทุก เมื่อ จากราคาหุ้นที่ปรับขึ้นไปแรง การเข้าลงทุนในวันนี้ คงต้องเน้นไปที่หุ้นที่นักลงทุนต่างประเทศหรือกองทุนให้ความสนใจ ส่วนใหญ่จะเป็นหุ้นขนาดใหญ่ รวมทั้งหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว โดยเฉพาะในเรื่องแนวโน้มกำไรของบริษัทนั้นๆ หุ้นที่ บล. KTBST แนะนำเก็งกำไรช่วงสั้น ได้แก่ PTT, BDMS, BAFS, TWPC, ATP30

ที่มา: http://www.thairath.co.th/content/695053

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น