วันพฤหัสบดีที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

หุ้นสหรัฐฯ ดิ่ง จากแรงเทขายหุ้นโบอิ้ง-ธนาคาร หลังราคาน้ำมันร่วงอีก


ดัชนีหุ้นสหรัฐฯ ลดลงอย่างมากในวันพฤหัสบดี จากแรงเทขายในหุ้นของบริษัท โบอิ้งและบริษัทธนาคารรายใหญ่ รวมทั้งบริษัทปิโตรเลียมหลังราคาน้ำมันลดต่ำสุดในรอบ 13 ปี…
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดการซื้อขายวันที่ 11 ก.พ. ในแดนลบ โดยดัชนีดาวโจนส์ลดลง 254.56 จุด หรือ 1.60% ปิดที่ 15660.18 จุด ส่วนดัชนีเอสแอนด์พี 500 ลดลง 22.78 จุด หรือ 1.23% ปิดที่ 1829.08 จุด ขณะที่ดัชนีแนสแด็กลดลง 16.75 จุด หรือ 0.39% ปิดที่ 4266.84 จุด
หุ้นของบริษัท โบอิ้ง ผู้ผลิตเครื่องบินรายใหญ่ลดลงถึง 6.8% หลังจากมีข่าวว่าบริษัทกำลังถูกเจ้าหน้าที่ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลัก ทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (เอสอีซี) สอบสวนว่าอาจคาดการณ์ผลกำไรเกินจริง
ขณะที่ธนาคารต่างๆ อาจมีผลกำไรลดลง จากความกังวลเรื่องความน่าเชื่อถือของผู้ออกตราสารหนี้ ทำให้เกิดแรงเทขายอย่างรุนแรง โดย แบงก์ ออฟ อเมริกา หุ้นตก 6.8%, ธนาคาร ซิตีกรุ๊ป ลดลง 6.5%, เจพีมอร์แกนเชส ลดลง 4.4% และธนาคาร โกลด์แมนแซค ลดลง 4.4%
ในเวลาเดียวกัน หุ้นบริษัทกลุ่มปิโตรเลียมก็ได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันที่ลดลง โดยราคาน้ำมันเวสต์ เทกซัส ลดลงอีก 1.24 ดอลลาร์สหรัฐฯ เหลือ 26.21 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2003
อย่างไรก็ตาม การเพิ่มขึ้นของหุ้นบริษัทในกลุ่มเทคโนโลยีอย่าง ซิสโก้ (+9.6%), เอ็กซ์พีเดีย (+9.5%) และ ทริปแอดไวเซอร์ (+12.4%) ทำให้ดัชนีแนสแด็กลดลงไม่มากนัก.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น